สอบใบขับขี่รถยนต์ เตรียมตัวให้พร้อม รับรองผ่านชัวร์

สอบใบขับขี่ให้ผ่านชัวร์ ทำอย่างไร

การขับขี่อย่างปลอดภัย ควรทำประกันรถเอาไว้และต้องมีใบขับขี่ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นเกิดอุบัติเหตุประกันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายเพราะอยู่นอกเงื่อนไขการประกัน

นอกจากนี้การขับขี่โดยไม่มีใบขับขี่นั้นก็ผิดกฎหมายทำให้โดนปรับได้ด้วยและยังเสียสิทธิ์ มีผลกระทบต่ออนาคตได้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันการทำใบขับขี่ต้องผ่านการอบรม 5 ชั่วโมง (สำหรับผู้สอบครั้งแรกและผู้ใบขับขี่อายุขาดเกิน 3 ปีขึ้นไป)

สอบผ่านข้อสอบทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ข้อสอบเหมือนจะไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเลยหากคุณไม่รู้ ซึ่งคำถามและคำตอบส่วนใหญ่จะอยู่ในวิดีโอ ขณะอบรมนั่นเอง ระหว่างนี้ให้ตั้งใจดูหากไม่อยากพลาดแล้วต้องมาสอบซ่อม และอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับกฎจราจรที่ยังมีอีกหลายคนเข้าใจผิดและไม่ทราบ อย่าชะล่าใจเลยทีเดียวในขั้นตอนนี้มีคนทำพลาดเยอะมาก ต้องเสียเวลามาสอบซ่อมทำให้เสียเวลาและท้อถอยในการสอบไปอีก จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนขับรถหลายคนไม่มีใบขับขี่นั่นเอง

อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถสอบใบขับขี่ได้

  • สำหรับ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ นั้นอยู่ระหว่าง 15 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
  • ใบขี่รถยนต์ ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
  • ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุ 22 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป
  • ใบขับขี่รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถอื่นๆ ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป

สิ่งที่ต้องเตรียมในการเข้าสอบใบขับขี่

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา 1 ฉบับ
  • ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
  • ใบรับรองการอบรม (กรณีผ่านการอบรมจากสถานอบรมอื่นที่กรมขนส่งยอมรับ) 

ค่าธรรมเนียม

  • ผู้สอบใหม่ ค่าคำขอและค่าใบอนุญาต 205 บาท
  • ผู้ต่ออายุ (5 ปี กรณีไม่ขาดอายุเกิน 3 ปี)  ค่าคำขอและค่าใบอนุญาต 505 บาท

จะทำใบขับขี่มีขั้นตอนอะไรบ้าง

1. จองคิวสอบใบขับขี่ได้ที่นี่ เว็บไซต์จองคิวสอบใบขับขี่

2. ได้คิวสอบแล้วต้องไปลงทะเบียนสอบ

ในวันที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเวลา 09.00 น. เพื่ออบรมก่อนสอบ สำหรับผู้ที่สอบครั้งแรกนั้น จะใช้เวลา 2 วันในการสอบ วันแรกนั้นจะเป็นการอบรม 5 ชั่วโมงและวันถัดไปเป็นการสอบสมรรถภาพร่างกายและสอบปฏิบัติ

3. สอบใบขับขี่ต้องผ่านอะไรบ้าง

  • อบรม 5 ชั่วโมงสำหรับผู้สอบใหม่และ 1 ชั่วโมงสำหรับผู้สอบต่ออายุใบขับขี่
  • ด่านแรก : ปฏิกิริยาโต้ตอบของสายตาและเท้า (ทดสอบตาบอดสี | ทดสอบสายตาทางลึก – ทางกว้าง | ทดสอบการสนองตอบของเท้า)
  • ด่านที่ 2 : สอบทฤษฏี ข้อสอบ 50 ข้อ ต้องทำให้ได้ 45 ข้อภายในระยะเวลา 60 นาที
  • ด่านที่ 3 : สอบขับขี่ภาคปฏิบัติ

ข้อสอบส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับอะไร

  • ป้ายจราจร เครื่องหมายที่สำคัญ เครื่องหมายบนพื้นถนน
  • วิธีขับรถอย่างปลอดภัยและถูกกฎจราจร เช่นการใช้ไฟฉุกเฉิน ขับรถขณะฝนตก 
  • การดูแลรถยนต์ เช่น การเติมน้ำกลั่น วิธีเติมหม้อน้ำ
  • กฎหมายจราจร เช่น อายุของใบขับขี่ การแจ้งหากมีการเปลี่ยนสีรถ ใบขับขี่หายทำอย่างไร ระดับแอลกอฮอล์ การบรรทุกสิ่งของ ฯลฯ 
  • มารยาทในการขับขี่ เช่น การใช้แตรรถ การเปิดไฟสูง

สอบปฏิบัติให้ทำอะไรบ้าง

ในการสอบปฏิบัตินั้นเป็นการทดสอบว่าผู้สอบสามารถขับรถได้จริงหรือไม่ ด้วยการสอบท่าปฏิบัติดังนี้

  1. การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า : ในข้อนี้จะทดสอบว่าผู้สอบสามารถขับได้อย่างต่อเนื่องและหยุดรถในที่กำหนดได้ในครั้งเดียว โดยในการจอดรถนั้นจะมีระยะห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร ส่วนหน้ารถจะไม่เกินจุดหยุดรถและไม่อยู่ห่างเกินกว่า 1 เมตร
  2. ขับรถเดินหน้า-ถอยหลังในทางตรง (เลือกได้) : ในกรณีที่เลือกเดินหน้าและถอยหลังจากช่องเดินรถนั้น สนามสอบจะเตรียมหลักถนนในลักษณะขนานกัน 2 แถว ยาวประมาณ 10-12 เมตรและมีระยะห่างประมาณ 1.5 เมตร ผู้สอบจะต้องไม่ขับเบียดหรือชนเสา และเดินหน้า-ถอยหลังได้ในครั้งเดียวรวมถึงรถต้องไม่ดับด้วย
  3. ขับรถเข้าจอดและออกจากที่จอด : ในข้อนี้สนามสอบจะเตรียมหลักไว้ประมาณ 9 หลัก ช่องระยะเท่ากันคือ 2.5 เมตรเพื่อให้ผู้สอบทำการถอยเข้าซองจอด โดยท่านี้จะสามารถเปลี่ยนเกียร์หักรถให้ได้มุมไม่เกิน 7 ครั้ง และต้องไม่ชนหรือเบียนดหลัก ล้อไม่ทับเส้นแบ่งช่อง

ขับขี่อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย ใบขับขี่สำคัญมาก มีรถขับต้องพกใบขับขี่ติดตัวเสมอนะคะ 

คุยกับเรา